RIBBON_BARCODE

CONTACT US

GENIUS GROUP
44 SOI  187 RAMKHAMHAENG RD. MINBURI BANGKOK , THAILAND 10510

                                                                                                                                                           

ริบบอนบาร์โค้ด-Ribbon Barcode

  • ริบบอนสีน้ำเงิน-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่น BLUE Premium Wax ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿
  • ริบบอนสีเขียว-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่น GREEN Premium Wax ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿
  • ริบบอนสีแดง-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่น Red Premium Wax ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿
  • ริบบอนสี-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่น Resin ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿
  • ริบบอนสี-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่น Wax Resin ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿
  • ริบบอนสี-หมึกพิมพ์บาร์โค้ด รุ่นPremium Wax ขนาด 110mm.x300m
    0.00 ฿
    0.00 ฿

ริบบอน บาร์โค้ด (Ribbon Barcode) คือ ?

ริบบอนบาร์โค้ด (Ribbon Barcode) หรือหมึกพิมพ์บาร์โค้ด ใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Printer Barcode) ได้ทุกรุ่น ทุกขนาด แต่ในการพิมพ์ฉลากที่ติดสินค้าที่มีบาร์โค้ดนั้น นอกจากจะเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดแล้ว ในการเลือกหมึกพิมพ์บาร์โค้ดหรือริบบอนบาร์โค้ดนั้นก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะคุณสมบัติของริบบอนแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ควรเลือกตามความเหมาะสมและขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความพอใจของลูกค้า โดยข้อแตกต่างในการเลือกใช้งานริบบอนบาร์โค้ดทั้ง 4 แบบ  

1. Ribbon Premium Wax

เหมาะกับกระดาษธรรมดา กระดาษกึ่งมัน กึ่งด้าน กระดาษอาร์ตมัน สามารถประยุกต์ใช้งานพิมพ์ ป้ายชื่อ ป้ายราคา ป้ายเสื้อผ้า บาร์โค้ดสำหรับโปรแกรมคลังสินค้า ป้ายถังขยะหรือชั้นวางของต่างๆ ป้ายสินค้าปลีก และฉลากสินค้าทั่วๆไป

♦ ราคาถูก ช่วยลดต้นทุนสินค้า
♦ ใช้ความร้อนและสารเคมีต่ำในการพิมพ์ ทำให้ความร้อนของหัวพิมพ์ลดลงประหยัดพลังงาน
♦ ไม่ค่อยทนต่อการขูดขีด ใช้งานได้ดีเฉพาะในอุณหภูมิปกติ ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง
♦ พิมพ์งานได้ดีมีความคมชัด

 

2. Ribbon Resin

เป็นริบบอนที่เหมาะกับ POLY, VOID, FOIL, LAMINATE, BOPP, UPO, PP WHITE เป็นริบบอนที่พิมพ์แล้วทนต่อการขูดขีด ไม่หลุดลอก ใช้ได้หลากหลายในงานทั่วไป เหมาะกับสติ๊กเกอร์เนื้อพิเศษที่มีผิวเรียบและมันวาว เหมาะการนำไปใช้กับฉลากรับประกันสินค้าอายุการใช้งานยาวนาน ติดฉลากบนสินค้าที่มีความทนทาน

♦ ราคาสูง

♦ มีคุณสมบัติยึดติดพื้นผิวได้ดี มีความคมชัด ติดทนนาน

♦ ทนความร้อนและสารเคมี เหมาะกับงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น รถยนต์ ปิโตรเลียม เคมี ฉลากสินค้าที่มีสารเคมีและต้องโดนน้ำ ผลิตภัณฑ์และของใช้ในห้องน้ำ สินค้าในห้องเย็น

♦ ใช้งานได้ดีเฉพาะในอุณหภูมิสูง ทนความร้อนสูง เช่น ติดฉลากที่อะไหล่ยนต์ หม้อน้ำรถยนต์

3. Ribbon Wax-Resin

เป็นหมึกพิมพ์ที่มีความทนทานดีและสามารถทนความเย็นต่ำๆได้ เป็นหมึกพิมพ์ริบบอนสำหรับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่มีเนื้อผสมระหว่าง Wax กับ Resin เหมาะกับงานพิมพ์บนกระดาษผิวมัน สามารถยึดติดกับพื้นผิวได้ดี เหมาะกับงานห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ทนอุณหภูมิต่ำๆๆๆ ติดลบ ห้องแช่เย็น เป็นต้น

♦ ราคาไม่แพง

♦ มีความคมชัดสูง

♦ ติดทนทาน เหมาะสำหรับงานพิมพ์บาร์โค้ดบนสินค้าที่ใช้เป็นเวลานาน

♦ ทนความชื้นได้ดี นิยมใช้ในงานพิมพ์ในอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำ

 

4. Ribbon Color

ริบบอนบาร์โค้ด แบบ Color Ribbon คือ หมึกพิมพ์ริบบอนสำหรับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดเป็นริบบอนที่เป็นสีต่าง เช่น สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน สีเขียว ใช้ได้กับทุกเนื้อกระดาษ ใช้พิมพ์ติดสินค้าทั่วไป เหมาะกับการพิมพ์บนสติ๊กเกอร์สีที่คุณต้องการ แต่พิมพ์ได้ครั้งละสี ใช้ได้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทุกรุ่น

♦ ราคาไม่แพง

♦ มีความคมชัดสูง

♦ ติดทนทาน เหมาะสำหรับงานพิมพ์บาร์โค้ดบนสินค้าที่ใช้เป็นเวลานาน ไม่ทนแรงขูดขีด

♦ ทนความชื้นได้ดี 

 

เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด กับ ริบบอนบาร์โค้ด ที่มาพร้อมวัสดุและอะไหล่คุณภาพสูง

ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ในปัจจุบัน ต่างก็มีความต้องการในการใช้บาร์โค้ดกับสินค้าของตัวเอง เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น บริษัทที่มีขนาดใหญ่บางแห่งเลือกที่จะมีเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดเป็นของตัวเองแทนที่จะจ้างร้านหรือบริษัทข้างนอกพิมพ์ให้ เนื่องจากหากปริมาณบาร์โค้ดที่ต้องการพิมพ์มากหรือต้องการออกแบบบาร์โค้ดเองก็สามารถทำได้ ก็จะเกิดความคุ้มค่าในการใช้งาน
เมื่อต้องมีเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดไว้ใช้ ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องพิมพ์คุณภาพจากบริษัทชั้นนำที่ไว้วางใจได้ ที่นอกจากจะจำหน่ายเครื่องพิมพ์คุณภาพสูง ยังมีบริการอื่น ๆ ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรับประกันตัวเครื่อง ขั้นตอนการใช้งาน คู่มือและการสาธิตวิธีใช้ รวมถึงบริการหลังการขายทั้งเรื่องปัญหาติดขัดต้องซ่อมแซม หรืออะไหล่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเป็นของแท้เท่านั้น Genius Group เราเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานและแนะนำเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ เราเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดและริบบอนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
Genius Group ที่มีจำหน่าย มีหลายรุ่นด้วยกัน มีทั้งแบบเดสท็อป แบบอุตสาหกรรม แบบไร้สาย รวมทั้งมีเครื่องอ่านบาร์โค้ดจำหน่าย เพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมขึ้นด้วย ทางบริษัทจะมีบริการติดตั้งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดให้ถึงสถานที่ใช้งานของลูกค้า นอกจากนั้นเรายังมีผ้าหมึกคุณภาพดีให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้หลายแบบตามความต้องการในการใช้งานและงบประมาณ ดังนี้ 

ริบบอนบาร์โค้ด Wax Ribbons เป็นผ้าหมึกที่เหมาะสำหรับการพิมพ์บาร์โค้ดที่ใช้กับฉลากสินค้าทั่ว ๆ ไป โดยพิมพ์บนกระดาษหรือสติกเกอร์ก็ได้ 

ริบบอนบาร์โค้ด Wax/Resin Ribbons เป็นผ้าหมึกที่เหมาะสำหรับการพิมพ์บาร์โค้ดที่ต้องการความทนทานมากขึ้น ส่วนผสมของเรซินที่เพิ่มเข้าไปในหมึกจะช่วยให้บาร์โค้ดทนต่อสารเคมี รอยขีดข่วนและการกัดกร่อนได้มากกว่าหมึกแบบธรรมดา 

ริบบอนบาร์โค้ด Resin Ribbons ผ้าหมึกแบบเรซินเหมาะสำหรับการพิมพ์บาร์โค้ดที่ต้องการความทนทานมากที่สุด เรซินมีคุณสมบัติยืดหยุ่นทำให้ทนต่อความร้อน รอยขีดข่วนและสารเคมี ผ้าหมึกแบบเรซินจึงใช้พิมพ์บาร์โค้ดได้ทั้งกระดาษธรรมดาและกระดาษสังเคราะห์ 

นอกจากผ้าหมึก อุปกรณ์เสริมที่ใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด เช่น เครื่องม้วนสติกเกอร์ ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 4 นิ้ว และ 7 นิ้ว ใช้กับเครื่องพิมพ์แบบตั้งโต๊ะทุกรุ่นทุกยี่ห้อ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการในการใช้งานของลูกค้า และ ขาตั้งม้วนกระดาษที่ใช้ร่วมกับเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ เช่นกัน สามารถใช้กับม้วนกระดาษที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดถึง 10 นิ้ว
นอกจากนำเสนอเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่มีคุณภาพสูง มีบริการหลังการขาย รวมถึงมีอุปกรณ์และอะไหล่ของแท้ที่มีคุณภาพจำหน่ายด้วยแล้ว ยังมีโปรแกรมในการใช้งานเพื่อพิมพ์บาร์โค้ดแถมให้กับลูกค้าด้วย เพื่อที่หลังจากลูกค้าสั่งซื้อเครื่องพิมพ์จากทางบริษัทจะสามารถเริ่มใช้งานพิมพ์ได้ทันที

 
 

การพิมพ์บาร์โค้ด หมึกพิมพ์บาร์โค้ด ริบบอนบาร์โค้ด ให้ได้ผลดีและเหมาะกับสินค้าของเรา

บาร์โค้ดหรือรหัสแท่ง เปรียบได้กับหมายเลขประจำตัวของสินค้า มักอยู่ในรูปของแท่งตรงสีขาวสลับดำ เรียงต่อกันตามแนวยาว โดยมีความหนาของสีแต่ละแท่งแตกต่างกันและประกอบเข้าด้วยกันเป็นตัวเลข 8-13 หลัก ซึ่งสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องสแกนบาร์โค้ด โดยอาศัยหลักการสะท้อนแสงเพื่อแปรค่าออกมาเป็นสินค้าชนิดต่างๆ นิยมนำมาใชักับสินค้าอุปโภคบริโภคแทบทุกชนิด รวมถึงสินค้าสำเร็จรูปและสินค้าในระบบอุตสาหกรรมต่างๆ
โดยการสร้างบาร์โค้ดที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดโดยการใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ซึ่งมีหลายรุ่นและหลายขนาดแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปจะมีหลักในการพิมพ์บาร์โค้ดอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1. การพิมพ์ด้วย ริบบอนบาร์โค้ด Ribbon Wax เป็นการพิมพ์ที่มีค่าใช้จ่านน้อยที่สุด มักมีชั้นของหมึกพิมพ์เพียงชั้นเดียว ใช้ริบบอนที่มีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าริบบอนประเภทอื่น ๆ จึงสามารถพิมพ์ได้โดยใช้ความร้อนในการพิมพ์ต่ำกว่าแบบแน่ๆ แต่ก็มีข้อเสียที่ความทนทานต่อแรงขูดขีด และแสงสว่าง จึงเหมาะกับงานพิมพ์ฉลากทั่วไป ที่ไม่ต้องการความทนทานมากนัก เช่น ป้ายเสื้อผ้า ป้ายติดสินค้าอุปโภคทั่วไป เป็นต้น
2. การพิมพ์แบบผสมระหว่างขี้ผึ้งและเรซิ่น ซึ่งจะเพิ่มความทนทานขึ้นกว่าแบบแรก เพราะ ริบบอนบาร์โค้ด ที่มีส่วนผสมของเรซิ่นจะมีจุดหลอมเหลวที่สูงกว่า จึงต้องใช้ความร้อนสูงกว่าในการพิมพ์บาร์โค้ด แต่ข้อดีของการพิมพ์แบบนี้ คือ ความทนทานที่สูงมากขึ้น มีความคงทนต่อการขีดข่วน สารเคมีทั่วไป ความร้อน ความชื้นและแสงสว่างที่มากขึ้น จึงมีราคาสูงกว่าการพิมพ์แบบแรก แต่มักนิยมนำใช้ในงานอุตสาหกรรม เพราะงานพิมพ์จะสามารถแสดงบนผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานกว่า
3. การพิมพ์แบบเรซิ่นเป็นการพิมพ์ที่มีความทนทานสูงที่สุด ต้องจุดหลอมเหลวในการพิมพ์ริบบอนสูงกว่าแบบอื่น ๆ จึงทำให้การพิมพ์ค่อนข้างช้าแต่สติกเกอร์บาร์โค้ดที่ผ่านการพิมพ์แบบนี้จะมีความทนทานสูง สามารถทนต่อแรงขีดข่วนสารเคมีต่าง ๆ และกันน้ำได้ดี จึงนิยมใช้กับผลิตภัณฑ์ที่สามารถต้องผ่านความร้อนหรือความชื้นที่สูง เช่น อาหารแช่แข็ง อุปกรณ์อิเลคทรอนิค เป็นต้น แต่มักมีราคาสูงกว่าการพิมพ์แบบอื่น ๆ จึงควรนำมาใช้กับงานที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ห้องเย็น อุปกรณ์ที่ต้องอยู่ใกล้สารเคมีและความร้อน เป็นต้น
ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่าการเลือกงานพิมพ์บาร์โค้ดที่ดีย่อมจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน : บาร์โค้ดจะช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น เที่ยงตรงและแม่นยำมากขึ้นได้ และยังเป็นการประหยัดเวลาในการทำงาน ไม่ต้องมาคอยแก้งานที่มีปัญหา หากเลือกงานพิมพ์ที่ดีและมีคุณภาพเหมาะสมกับงานที่ใช้อันเป็นการประหยัดด้านทรัพยากรบุคคลอีกด้วย และการเลือกใช้การพิมพ์บาร์โค้ดที่เหมาะกับงานยังก่อให้เกิดความคุ้มค่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

ทำไมต้องใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดกับริบบอน

Barcode Printer (เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด)
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด คือ เครื่องพิมพ์ สำหรับพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ โดยลักษณะการทำงานของเครื่องพิมพ์ ใช้ความร้อนในการพิมพ์บาร์โค้ดลงบนสื่อต่างๆ ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทั่วไป จะมีความละเอียดของหัวพิมพ์น้อยกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป คือมีความละเอียดของหัวพิมพ์อยู่ระหว่าง 200 - 600 Dpi และพิมพ์ได้เพียง 1 สีเท่านั้น (Monotone)
แต่เนื่องจากเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีความเร็วในการพิมพ์สูง และสามารถพิมพ์บาร์โค้ดออกได้อย่างชัดเจน และเหมาะสมกับการพิมพ์บาร์โค้ดสำหรับติดลงวัตถุ หรือสินค้า จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ Thermal Transfer และ Direct Thermal
1. ระบบพิมพ์ผ่านผ้าหมึก (Thermal Transfer) คือระบบการพิมพ์ที่ต้องอาศัยผ้าหมึกในการพิมพ์ โดยตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดจะส่งความร้อนไปยังหัวพิมพ์เพื่อละลายหมึกบนผ้าหมึกให้ติดสื่อที่ต้องการ ซึ่งผ้าหมึกที่เราใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด เรียกว่า ริบบอน(Ribbon) ระบบการพิมพ์แบบผ่านริบบอนให้ความคงทน

มารู้จัก ริบบอน(Ribbon) เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Ribbon Wax, Ribbon Wax-Resin, และ Ribbon Resin

- Ribbon Wax คือ ผ้าหมึกคุณภาพต่ำสุด ความคงทนน้อย นำไปใช้สื่อทั่วไป  เช่น สติ๊กเกอร์ดาษมัน สติ๊กเกอร์กึ่งมันกึ่งดาษ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และ ขนาดกลาง

- Ribbon Wax-Resin คือ ผ้าหมึกคุณภาพกลาง มีความคงทน นำไปใช้กับสื่อที่ต้องการความคงทน เช่น สติ๊กเกอร์เนื้อผสมพลาสติก ที่ใช้งานในห้องเย็น
- Ribbon Resin คือ ผ้าหมึกคุณภาพสูง มีความทนทานสูง ทนรอยขีดข่วน ทนความร้อน นำไปใช้กับสื่อที่ต้องการความทนทานสูง เช่น สติ๊กเกอร์ติดอะไหล่ยนต์ สติ๊กเกอร์ติดแผงวงจรไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งสติ๊กเกอร์ติดทรัพย์สินทั่วไปที่ต้องการระยะเวลาในการใช้งานหรือการเก็บเป็นเวลานาน

2. ระบบพิมพ์โดยตรง (Direct Thermal) คือระบบการพิมพ์โดยไม่ต้องใช้ริบบอน โดยตัวเครื่องจะส่งความร้อนไปยังหัวพิมพ์และสัมผัสกับตัวสื่อโดยตรง ระบบการพิมพ์โดยตรงต้องใช้ควบคู่กับสื่อชนิดพิเศษ เป็นสื่อความร้อน คือ สื่อประเภทนี้จะเคลือบสารเคมีไว้ เมื่อสารเคมีโดนความร้อนจะปรากฏข้อมูลที่พิมพ์ขึ้นมา ซึ่งการพิมพ์ลงบนสื่อดังกล่าว จะมีอายุการเก็บรักษาไว้ไม่ได้นาน สารเคมีที่เคลือบอยู่จะสลายไปเองตามธรรมชาติ และไม่ทนต่อรอยขีดข่วน ตัวอย่างเช่น ฉลากยา ใบเสร็จค่าน้ำ - ค่าไฟ

ประเภทของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

แบ่งออก 3 ประเภท ตามลักษณะการใช้งาน คือ Desktop Printer, Mid-Rang Printer, Industrial Printer
1. Desktop Printer : คือเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดเล็ก ตัวเครื่องทำมาจากพลาสติก เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพทั่วไปปริมาณการพิมพ์ ไม่ควรเกิน 1,000 ดวงต่อวัน ความละเอียดของหัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ทั่วไป 200 - 300 dpi แต่อาจจะมีบางรุ่นที่รองรับหัวพิมพ์ 600 dpi ใช้งานทั่วไปตาม ร้านค้า โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ สนามบิน

 

 

 2. Mid-Rang Printer : คือเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดกลาง ตัวเครื่องเป็นโลหะ สามารถนำไปใช้งานโรงงานขนาดเล็ก ปริมาณการพิมพ์ ไม่ควรเกิน 3,000 ดวงต่อวัน ความละเอียดหัวพิมพ์ 200, 300, 400 and 600 dpi ใช้งานตามกลุ่มโรงงานขนาดเล็ก ร้านค้าขนาดกลาง 

 

3. Industrial Printer : คือเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ ตัวเครื่องเป็นโลหะ ใช้งานในโรงงานขนาดใหญ่ มีความทนทานสูงปริมาณการพิมพ์ 4,000 - 100,000 ดวงต่อวัน ความละเอียดหัวพิมพ์ 200, 300, 400 and 600 dpi และมีความพิเศษในส่วนหน้ากว้างการพิมพ์ รองรับหน้ากว้างในการพิมพ์สูงสุด 8 นิ้ว ซึ่งเครื่องปกติทั่วไป หน้ากว้างในการพิมพ์ไม่เกิน 4 นิ้ว ใช้งานตามกลุ่มโรงงานขนาดโรงงานผลิต

ประเภทของสื่อ (Media Type) ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีทั้งหมด 3 ประเภท
1. Continue คือสื่อที่เป็นลักษณะต่อเนื่อง
2. GAP/NOTCH คือสื่อที่ถูกตัดออกเป็นดวงๆ หรือเป็นลักษณะเป็นรู เพื่อให้เซ็นเซอร์จับความสูงของสื่อแต่ละดวงได้
3. Black Mark คือสื่อที่ทำเครื่องหมายสีดำไว้ด้านหลัง เพื่อให้เซ็นเซอร์จับความสูงของสื่อแต่ละดวงได้

การเลือกชื้อเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดเหมาะสมกับการใช้งาน

1. เลือกเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมกับปริมาณการพิมพ์ในแต่ละวัน เพื่อเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน และคุ้มค่ากับ ธุรกิจ
2. เลือกเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน เช่นหากนำไปใช้งานในบริษัท หรือสำนักงานทั่วไปสามารถเลือกใช้งานเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดในกลุ่ม Desktop Printer ได้ แต่หากนำไปใช้งานสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น และมีความร้อน เช่นโรงงาน ควรเลือกใช้งานเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดในกลุ่ม Mid-Rang  ขึ้นไป
3. เลือกขนาด ประเภทของสื่อที่สามารถใช้งานได้หลากกับสินค้า หรือวัตถุดิบ อย่างเช่น บริษัทผลิตสบู่ มีขนาดกล่องใส่สบู่ขนาดต่างๆกัน ควรเลือกขนาดสื่อที่มีขนาดสำหรับใช้งานได้กับกล่องใส่สบู่หลายขนาดเพื่อประหยัดเวลาในการเปลี่ยนขนาดของสื่อกับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
4. หากจำเป็นต้องใช้งานสื่อหลายขนาด และประเภท แนะนำให้ใช้งานเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดแยกตามขนาด และประเภทของสื่อ ตัวอย่างเช่น มีสติ๊กเกอร์ใช้งานสองขนาด ปริมาณการพิมพ์ต่อวันประมาณ 6,000 ดวงต่อวัน ปกติปริมาณการพิมพ์ประมาณนี้ต้องใช้งานเครื่องเกรด Industrial Printer แต่กรณีนี้เราสามารถใช้งานเครื่องเกรด Mid-Rang Printer 2 เครื่องทดแทน เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และง่ายต่อการใช้งาน
5. ประเภท หรือขนาดของสื่อ หากเป็นงานเฉพาะทาง ถึงแม้ปริมาณการพิมพ์ไม่มากนัก แต่ต้องเลือกเครื่องขนาด Mid-Rang Printer ขึ้นไป เพราะเนื่องจากเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กมีข้อจำกัด เช่น
- สื่อประเภทที่ต้องใช้ความร้อนของหัวพิมพ์สูง เช่น สื่อทนความร้อน
- สื่อขนาดเล็ก โดยขนาดความสูงน้อยกว่า 1.5 cm เช่น สื่อที่ติดในแผงวงจร พื้นที่ติดมีขนาดจำกัด
6. เลือกความละเอียดของหัวพิมพ์บาร์โค้ดให้เหมาะสมกับขนาดข้อมูลที่ต้องการพิมพ์ลงบนสื่อ โดยความละเอียดของหัวพิมพ์จะส่งผลโดยตรงกับขนาดของข้อมูลที่พิมพ์ หากใช้งานความละเอียดของหัวพิมพ์ที่ความละเอียดต่ำข้อมูล พิมพ์ข้อมูลที่มีขนาดเล็กจะทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน อ่านได้ลำบาก และบางครั้งจะอ่านไม่ได้เลย รวมถึงตัวบาร์โค้ดด้วย หากหัวพิมพ์มีความละเอียดน้อยกว่าข้อมูลของตัวบาร์โค้ด จะทำให้บางโค้ดอ่านยาก หรืออ่านไม่ได้เลย โดยส่วนมากหากลูกค้าต้องการข้อมูลที่มีความละเอียดของข้อมูลสูงหรือต้องพิมพ์สี หรือตราบริษัท จะทำการพิมพ์ข้อมูลเหล่านั้นมาจากโรงงาน และข้อมูลที่ใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดพิมพ์เพิ่มเติมจะเป็นข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น วันที่ในการผลิต วันหมดอายุ
7. เลือกพอร์ตการเชื่อมต่อที่เหมาะสมกับการใช้งานเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
- พอร์ตการเชื่อมต่อของ Host และ Interface ที่โปรแกรม หรือระบบรองรับ
- ระยะทางในการเชื่อมต่อ เช่น หากระยะทางเกินกว่า 5 เมตร ควรเลือกใช้งาน RS232, Ethernet or Wi-Fi
8. เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด โดยดูที่ราคา ยี่ห้อ ที่เหมาะสมกับองค์กร หรือ งบประมาณที่มีอยู่
9. เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด จากผู้ขายที่ความรู้ ประสบการณ์ ที่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับองค์กร ของเรา ไม่ใช่เลือกแค่เพียงราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดในปัจจุบันมีหลากหลาย
10. เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด จากบริษัทที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเรื่องการใช้งาน และบริการหลังการขาย