บทความ บาร์โค้ด ( Barcode ) บาร์โค้ดคืออะไร

ประโยชน์และความสำคัญของ บาร์โค้ด เครื่องอ่านบาร์โค้ดและระบบบาร์โค้ด

                       ความสำคัญของเครื่องอ่านบาร์โค้ดและระบบบาร์โค้ดต่อธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากระบบบาร์โค้ดสามารถเก็บข้อมูลที่สำคัญได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีการนำระบบบาร์โค้ดมาใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าคงคลัง ระบบการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม ระบบบันทึกเวลาและระบบทรัพย์สิน เป็นต้น
ระบบบาร์โค้ดมี 2 แบบ แบบแรกเป็นแบบ 1 มิติที่ใช้กันโดยทั่วไป และแบบที่สองเป็นแบบ 2 มิติ การใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดและระบบบาร์โค้ดต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานและตัวสินค้าของเราด้วย บาร์โค้ดแบบ 2 มิติ เป็นรหัสที่พัฒนามาจากรหัสบาร์โค้ดแบบ 1 มิติ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้นหรือประมาณ 200 เท่าของบาร์โค้ดแบบ 1 มิติ เครื่องอ่านบาร์โค้ดหรือ Barcode Scanner ที่ใช้อ่านบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ สามารถใช้ได้ตั้งแต่เครื่องอ่านแบบซีซีดี เครื่องอ่านแบบเลเซอร์และเครื่องอ่านแบบโทรศัพท์มือถือ ระบบบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ มี 2 ประเภท คือ
- สแต๊กบาร์โค้ด มีลักษณะเหมือนการนำบาร์โค้ดแบบ 1 มิติมาวางซ้อนกัน เครื่องอ่านบาร์โค้ดสามารถอ่านได้ทิศทางเดียว โดยอ่านจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายและอ่านจากล่างขึ้นบนหรือบนลงล่าง ระบบการทำงานจะปรับความกว้างของรหัสบาร์โค้ดก่อนแล้วจึงถอดรหัส หากรหัสมีความเสียหายเป็นบางส่วน เครื่องอ่านสามารถทำการอ่านได้ เช่น บาร์โค้ดแบบ Portable Data File 417 เป็นต้น
- เมตริกซ์บาร์โค้ด มีลักษณะหลากหลายและมีความเป็นบาร์โค้ดแบบ 2 มิติมากกว่าแบบแรก ข้อดี คือ อ่านข้อมูลได้เร็วและสามารถถือเครื่องอ่านแบบเอียง กลับหัว หรือไม่ตรงกับรหัสบาร์โค้ดได้ กระบวนการทำงานเริ่มต้นด้วยการค้นหาและถอดรหัสข้อมูล ตัวอย่างของบาร์โค้ดแบบเมตริกซ์ คือ QR Code, Data Matrix และMaxi Code เป็นต้น
ข้อดีของการนำเครื่องอ่านบาร์โค้ดและระบบบาร์โค้ดมาใช้ในธุรกิจ คือ
- ลดข้อผิดพลาดจากการทำงาน การจัดเก็บข้อมูลด้วยระบบบาร์โค้ด ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดอันเกิดจากการที่พนักงานคีย์ข้อมูลผิด ทำให้ต้องเสียเวลาในการแก้ไข เสียค่าใช้จ่าย และทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจได้
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในบางขั้นตอนของการทำงานที่ต้องใช้ความรวดเร็วและต้องใช้เวลาในการติดตามงานเพียงเล็กน้อย การใช้ระบบบาร์โค้ดสามารถช่วยให้ประหยัดเวลา แรงงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ประหยัดเวลา สำหรับสินค้าคงคลังเดิมต้องมีการเช็คสต๊อกประจำปีหรือเช็ค 1 ครั้ง/ครึ่งปี เราต้องใช้พนักงานจำนวนมากและระยะเวลาหลายวันในการเช็คสต๊อกสินค้าคงคลัง แต่ด้วยระบบบาร์โค้ดเราสามารถใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดสแกนเพียงเวลาไม่กี่วินาที ระบบจะตัดสินค้าคงคลังของเราโดยอัตโนมัติทำให้เราประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานและยังได้ข้อมูลและตัวเลขที่ถูกต้องอีกด้วย