ลักษณะการทำงานของเครื่องอ่านบาร์โค้ดที่หลายคนอาจยังไม่รู้

     ถ้าพูดถึงการทำงานเกี่ยวกับการนำระบบบาร์โค้ดมาใช้ในวงการธุรกิจแล้ว ธุรกิจที่คงเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาธุรกิจห้างสรรพสินค้า รวมถึงตามร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไป ที่เราจะเห็นพนักงานที่เคาน์เตอร์มีเครื่องอ่านบาร์โค้ดไว้คอยยิงตัวสินค้าทำให้การชำระเงินของคุณรวดเร็วขึ้น สิ่งที่คุณเห็น ก็คือ ในแท่นบาร์โค้ดนั้นจะเป็นเหมือนแสงสีแดง ๆ ยิงเข้ามาที่ป้ายบาร์โค้ดของตัวสินค้า แล้วระบบก็จะคำนวณราคาสินค้าออกมาบนจอคอมพิวเตอร์ นั่นคือลักษณะคร่าว ๆ ที่เราเคยเห็นกัน แต่จริง ๆ แล้วมันยังมีหลักการทำงานที่ลงรายละเอียดไปมากกว่านั้น ลองมาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

     ลักษณะของเครื่องอ่านบาร์โค้ดก็จะสามารถจำแนกออกได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะที่เราเคยเห็นกันหรือระบบมือถือที่สามารถยกออกมายิงสินค้าได้ ซึ่งเป็นแบบหลัก ๆ ที่เราจะเคยเห็น ซึ่งลักษณะการทำงานของบาร์โค้ดก็จะเป็นแถบสีดำ ๆ และพื้นสีขาวรวมถึงจะมีเส้นและตัวหนังสือหรือตัวเลขระบุข้อมูลของสินค้าประเภทนั้น ๆ เอาไว้ในคอมพิวเตอร์ เมื่อเครื่องอ่านบาร์โค้ดมายิงก็จะเกิดการคำนวณค่าข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งลักษณะการทำงานจะถูกแบ่งออกได้ดังนี้ แหล่งที่ทำให้เกิดแสงจะยิงมายังแท่งบาร์โค้ด ซึ่งพอลำแสงที่ยิงออกมานั้นสัมผัสกับบาร์โค้ดก็จะถูกสะท้อนกลับมายังตัวเครื่อง ซึ่งภายในเครื่องเองก็จะมีอุปกรณ์ในลักษณะของการเปลี่ยนค่าแสงที่ยิงได้มานั้นให้กลายเป็นระบบดิจิทัลและจะมีการนำมาเปรียบกับตารางบาร์โค้ดที่มีอยู่ในนั้น อาทิ มีตัวเลข ตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์อะไรก็แล้วแต่ เมื่อถูกอ่านค่าเรียบร้อยก็จะถูกบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราไม่ต้องไปกดปุ่มเพื่อระบุอะไรทั้งสิ้น เท่านี้เราก็จะได้ข้อมูลที่แม่นยำและค่อนข้างที่จะรวดเร็วเพราะว่าได้มีการบันทึกรหัสเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ดีการใช้งานต้องระวังเรื่องตัวสินค้าจะเปียกน้ำด้วยเพราะถ้าหากเปียกเครื่องอ่านบาร์โค้ดจะยิงรหัสได้ลำบากทำให้อาจเกิดความผิดพลาดทางข้อมูลได้

     แม้ว่าลักษณะการทำงานของเครื่องอ่านบาร์โค้ดจะไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไรมากนักหากมองจากมุมของผู้ที่พบเห็น แต่ว่าจริง ๆ แล้วยังมีเรื่องของการป้อนรหัสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้ นั่นคือการทำงานที่เราได้เห็นกันว่าพอเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยกับการเข้าใจถึงหลักการที่คนคิดค้นสามารถทำออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานกันอย่างสบาย รวมถึงยังสร้างความสะดวกสบายให้กับธุรกิจได้อีกด้วย