เครื่องอ่านบาร์โค้ดกับธุรกิจของการเช่าชุดแต่งงาน

เครื่องอ่านบาร์โค้ดกับธุรกิจของการเช่าชุดแต่งงาน

     การแต่งงานหรือวันแต่งงานคือวันสำคัญของคู่รักอีกวันหนึ่ง ซึ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันได้ทำให้หลาย ๆ คู่เลือกการเช่าชุดแต่งงานแทนที่จะตัดชุดแต่งงาน ทั้งนี้ก็มาจากเหตุผลของความประหยัดนั่นเอง หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในแวดวงของการเช่าชุดแต่งงานหรือเป็นเจ้าของร้านเช่าชุดแต่งงาน สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุด ได้แก่ การพยายามสร้างผลกำไรให้กับร้านของคุณเองและพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดนั่นเอง โดยข้อดีที่คุณจะได้รับหลังจากที่นำระบบบาร์โค้ดและเครื่องอ่านบาร์โค้ดไปใช้ในร้านเช่าชุดแต่งงานมีดังต่อไปนี้

1.เริ่มต้นที่การแยกประเภทของชุดแต่งงานตามสีและไซส์
     สำหรับการแยกประเภทชุดแต่งงานเบื้องต้นนั้น คุณควรแยกที่สีหรือไซส์เป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเช่าชุดแต่งงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อให้ลูกค้าประทับใจนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่คุณแยกชุดแต่งงานตามสีและไซส์ จากนั้นคุณนำเอาชุดแต่งงานไปแปะติดด้วยบาร์โค้ดทั้งนี้การมาเช่าชุดหรือขอดูชุดแต่ละครั้ง คุณก็จะสามารถเลือกดูข้อมูลของชุดแต่งงานตามที่คู่รักเหล่านั้นต้องการได้ โดยการคลิกเลือกนั้นจะทำได้ดีและรวดเร็วกว่าการที่คุณไปหาที่ราวแขวนเสื้อนั่นเอง เมื่อได้เสื้อหรือชุดแต่งงานที่ลูกค้าพอใจแล้ว อันดับต่อไปให้คุณใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดเพื่ออ่านบาร์โค้ดเก็บข้อมูลที่ลูกค้าเช่าชุดนั้น ๆ ไว้ ทั้งนี้ควรมีการเพิ่มเติมวันที่เช่าและวันสิ้นสุดการเช่าไว้ด้วย ในเรื่องของค่าปรับก็จะต้องมีการแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดการเข้าใจกันเป็นอย่างดีทั้งสองฝ่าย เพราะหากว่าลูกค้ามาคืนชุดแต่งงานที่เช่าไว้แล้วพบว่าค่าเช่าแพงกว่าที่ตกลงกันนั้น สิ่งที่คุณอาจจะลำบากใจก็คือการที่คุณพบว่าไม่สามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจกฎของทางร้านได้นั่นเอง

2.การคืนชุดแต่งงาน
     การชุดแต่งงานหรือจ่ายค่าเช่านั้นจะทำได้ง่ายและรวดเร็วมากกว่าเดิมในกรณีที่คุณมีเครื่องอ่านบาร์โค้ดเอาไว้ที่ร้าน เพียงแค่ลูกค้านำเสื้อมาคืนที่ร้าน แล้วคุณแสกนบาร์โค้ดที่ชุดนั้น ระบบก็จะขึ้นแสดงผลมาในทันทีว่าค่าเช่าชุดเป็นราคาเท่าใด หากเปรียบเทียบกับระบบเก่าอย่างการที่คุณเก็บรายชื่อชุดที่เช่าไว้ในสมุด เมื่อลูกค้าคืนชุดก็ต้องหาจากในสมุดเป็นเวลานาน จนอาจจะทำให้ลูกค้าอารมณ์เสียอีกด้วย หลังได้รายชื่อชุดที่เช่าไปแล้วคุณก็จะต้องนำมาคิดเงินอีกว่าลูกค้าเช่าไปกี่วันแล้วนั่นเอง ทำให้เสียเวลาทั้งการหารายชื่อชุดและการคำนวณเงิน
สำหรับใครที่กำลังเปิดธุรกิจการเช่าชุดแต่งงาน สิ่งที่ควรทำก็คือการพยายามหาแผนธุรกิจที่เหมาะสมกับร้านของคุณเอง เช่น การใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดจะทำให้ร้านของคุณเจริญรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว