ระวังสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหากไม่ได้เลือกใช้ลิ้นชักเก็บเงินสด

ระวังสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหากไม่ได้เลือกใช้ลิ้นชักเก็บเงินสด

      ทุกวันนี้เวลาเราเดินไปตามร้านขายของทั่ว ๆ ไป เราก็มักจะเห็นวิธีการเก็บเงินรูปแบบที่ใช้ลิ้นชักเก็บเงินสดเป็นเครื่องในการเก็บเงินของร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งสำหรับตัวลูกค้าเองแล้วกืถือว่าสร้างความสะดวกและรวดเร็วในการคิดเงินเป็นอย่างมาก พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ต้องรอนานเหมือนกับยุคก่อน ๆ ที่ต้องรอนั่งกดเครื่องคิดเลขแล้วกว่าจะค้นหาเงินทอนเจอ ซึ่งมันทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ การที่ร้านเหล่านี้มีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นก็พลอยทำให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ เองสบายตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางร้านที่ยังคงเลือกใช้วิธีการเก็บเงินแบบเดิม ๆ จึงอยากจะมีการบอกกล่าวกันไว้ก่อนว่าหากไม่ลองเปลี่ยนอาจเกิดบางอย่างกับธุรกิจก็ได้

1. เงินหน้าร้านมีโอกาสสูญหายสูง – ถ้าหากเลือกใช้ลิ้นชักเก็บเงินสดหรือ cashdrawer มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่เงินจะสูญหายหรือเก็บเงินไม่ครบ เนื่องจากว่าเครื่องจะมีระบบการคิดเงินและแจ้งการทอนเงินที่ชัดเจน รวมไปถึงมีใบเสร็จออกให้ด้วย แต่ถ้าเป็นการเก็บเงินแบบวิธีเก่าโดยการใช้เครื่องคิดเล็กก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกันที่เงินอาจจะทอนขาด ๆ เกิน ๆ ได้

2. ระวังตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพ – หากว่ามิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบของคนเดินถนนซื้อสินค้าธรรมดา ๆ เพื่อคอยมาสังเกตการณ์ว่าร้านของเราเก็บเงินแบบไหน ถ้าหากเก็บเงินไว้แบบเดิม ๆ คือ ตามลิ้นชักหรือในกระเป๋าสะพายก็จะเป็นโอกาสอันดีที่จะให้พวกมิจฉาชีพเหล่านี้ทำภารกิจของตัวเอง แต่ถ้าหากพวกนี้เห็นว่าเป็นลิ้นชักเก็บเงินสดบางครั้งก็จะกลัวว่ากว่าจะรื้อลิ้นชักได้มาตำรวจอาจจะเข้ามาก่อน

3. ลูกค้าเกิดความเบื่อหน่ายในการชำระเงิน – แน่นอนว่าเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าเสร็จแล้วก็ย่อมอยากที่จะได้รับการบริการการชำระเงินที่รวดเร็ว หากว่ายังคงใช้ระบบแบบเก่าอยู่คือนับเงินทอนด้วยตัวเอง ไม่มีตัวช่วยในการคิดเลข ก็คงจะช้าน่าดูแล้วไหนกว่าจะมาค้นเงินที่กองรวมกันไวอีก ลูกค้าก็เกิดความน่าเบื่อในการรอคิดเงินกันน่าดู แต่สำหรับการใช้ลิ้นชักเก็บเงินสดจะมีช่องแยกเอาไว้สำหรับการใส่เงินแต่ละราคาทำให้สะดวกในการหยิบทอนมากขึ้น

      นี่เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขียนให้เห็นว่าหากยังคงใช้วิธีการเก็บเงินเดิม ๆ โดยไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้งานลิ้นชักเก็บเงินสดหรือ cashdrawer จะส่งผลอย่างไรกับธุรกิจบ้าง แม้บางคนอาจจะบอกว่าก็ทำแบบนี้กันมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกแล้ว แต่มันคงจะดีไม่น้อยใช่หรือไม่ ถ้าหากกล้าที่จะลองเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาธุรกิจของตัวเอง